การเปลี่ยนแปลงพลังงาน
Energy Transition
ภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาที่สำคัญในมุมมองทางเศรษฐกิจและสังคม แต่จุดเปลี่ยนก็มาถึงด้วยกับความสำเร็จของ Energy Transition ในขณะที่ผู้กำหนดนโยบาย บริษัท และนักลงทุนทั่วโลกกำลังพยายามทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ก็เกิดโอกาสที่จะสร้างความแตกต่างและมุ่งเน้นไปที่แนวคิดการเติบโตในอุดมคติที่เราวาดอนาคตไว้
ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมสนับสนุนการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเช่นเดียวกับประชาคมโลก โดยประกาศเป้าหมายว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุด 20% ภายในปี พ.ศ. 2573 บรรลุเป้าความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 และบรรลุเป้าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2608
เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2564 แอร์ ลิควิด ได้ประกาศแผนการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในปี พ.ศ. 2568 ด้วยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้สูงสุด และบรรลุความเป็นกลางของคาร์บอนในปี พ.ศ. 2593 โดยมีจุดหมายสำคัญคือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 33% จากปริมาณการปล่อยทั้งหมดภายในปี พ.ศ. 2578 ทั้งยังมุ่งมั่นที่จะร่วมงานกับลูกค้าเพื่อมุ่งสู่อุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำและยั่งยืน:
- ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมดในปี พ.ศ. 2025
- ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ใน scope 1 และ 2 ลง 33% ภานในปี พ.ศ. 2578 เมื่อเทียบกับปี 2020
เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ระยะยาวในการพัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำของประเทศไทย แอร์ ลิควิด ประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อมุ่งสู่อุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำและยั่งยืน ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของวาระสำคัญระดับโลก แอร์ ลิควิด ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและประสบการณ์ของบริษัทเพื่อลดผลกระทบต่อสภาพอากาศในการดำเนินงานและเสนอวิธีการที่ทำให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนลดลง ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ของลูกค้า โดยจะดำเนินการผ่านแนวทางต่าง ๆ ด้วยการใช้เทคโนโลยีของแอร์ ลิควิด เช่น การผลิตไฮโดรเจนสีน้ำเงินหรือสีเขียว การดักจับคาร์บอนและนำไปใช้ประโยชน์ (CCU) สำหรับการผลิตสารเคมี (เช่น เมทานอล แอมโมเนีย) หรือ การดักจับเพื่อกักเก็บคาร์บอน (CCS) และการเปลี่ยนสภาพก๊าซธรรมชาติเป็นวัตถุดิบชีวภาพในโรงงานของแอร์ ลิควิด